เนื่องจากการติดต่อสื่อสารกับประเทศต่าง ๆ เป็นไปได้อย่างง่ายดาย
ปัจจุบันการไหลของข่าวสารเข้ามายังสังคมไทยเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่บังเอิญว่าข่าวสาร
ที่ไหลเข้ามาในสังคมไทยเกือบทั้งหมดเป็นข่าวสารข้อมูลจากตะวันตก
ดังนั้นสิ่งที่มากับ ข่าวสาร อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ก็คือ วัฒนธรรมตะวันตก
ในสังคมไทย คนส่วนใหญ่ต่าง ก็เชื่อว่า"ความเป็นตะวันตก
เหนือกว่าตะวันออก" มันจึงเป็นการง่ายที่วัฒนธรรมตะวันตก จะเข้ามามีอิทธิพลต่อคนในสังคม
ทำให้คนในสังคมคิดกระทำด้วยปรัชญาของตะวันตก
จากปรากฏการณ์ที่กล่าวมาทำให้"ความเป็นไทย"หรือ"รากเหง้าทางวัฒนธรรม" จึงค่อย
ๆ สูญหายจากสังคมไปทีละน้อย ๆ
ประกอบกับวัฒนธรรมไทยไม่มีช่องทางที่จะ
สื่อสาร ออกมาให้คนไทยได้เห็นได้รู้
วัฒนธรรมไทยก็จะสูญหายง่ายมากเท่านั้น
ดังนั้น ผู้มีหน้าที่รับผิดชอบเกี่ยวกับสื่อในหลาย ๆ ประเภทจะต้องตระหนัก
ถึงความสำคัญ ของวัฒนธรรมไทยให้มาก มิใช่อยู่ภายใต้อำนาจของทุนหรือเงินมากเกินไป
จนละเลยหน้าที่รับผิดชอบของตน จนมีคำกล่าวกันว่า ผู้ที่มีอำนาจรับผิดชอบเกี่ยวกับสื่อ
ในสังคมไทยเป็นแบบ "ไม่รู้แล้วชี้"ซึ่งหมายถึงผู้ที่มีอำนาจรับผิดชอบเกี่ยวกับสื่อมักจะเป็น
ผู้ขาดความรู้ ขาดวิสัยทัศน์ ขาดความเข้าใจในความสำคัญของ "รากเหง้าทางวัฒนธรรม"
ของไทยที่จะต้องมีการอนุรักษ์ไว้ โดยการนำเสนอผ่านสื่อที่ตนรับผิดชอบอยู่
แต่กลับยอม ให้อำนาจของทุนหรือของเงินมีอิทธิพลเหนือกว่าจิตสำนึก ความรับผิดชอบที่ตนควรจะมี
แล้วสังคมไทยเราก็ยังปล่อยให้คนเหล่านี้ทำหน้าที่ชี้นำทิศทางการสื่อสารอยู่
จึงไม่ต้องสงสัย
เลยว่า "รากเหง้าทางวัฒนธรรมไทย"
จะสูญหายไปจากสังคมในที่สุด
ยิ่งไปกว่านั้น ในสังคมไทยผู้ที่เห็นความสำคัญของ"รากเหง้าทางวัฒนธรรม
ไทย" ผู้ที่พยายามรักษาวัฒนธรรมไทย
ไม่สามารถอยู่ในสังคมไทยได้อย่างสะดวกสบาย รัฐบาลมักจะไม่เห็นความสำคัญของพวกเขา
ทำให้คนกลุ่มนี้ไม่มีพลังที่จะทำสิ่งต่าง ๆเพื่อ วัฒนธรรมไทยได้
แต่อย่างไรก็ตาม ถ้าผู้รับสารรู้จักเลือกรับสารผู้กำกับดูแลสื่อรู้จักพิจารณากลั่น
กรองข้อมูลข่าวสารอย่างรอบคอบ มีวิสัยทัศน์ รู้จักให้ช่องทางในการสื่อวัฒนธรรมไทย
มีการให้ความรู้ผู้รับสารให้ตระหนักถึงความสำคัญของการธำรงค์ไว้ซึ่งรากเหง้าทาง
วัฒนธรรมไทย เมื่อนั้นสังคมไทยจะอยู่ในสังคมโลกาภิวัตน์ได้อย่างไม่ถูกกลืนหาย
ทางวัฒนธรรม