หัวใจ...ไฟลน  
    แสนสงสารหัวใจใยเร่าร้อน สุดถ่ายถอนนอนฝันรำพันหา
เฝ้าลุ่มหลงพะวงรักปักอุรา เมื่อจากมาแล้วใจสุดทานทน
อยากจะบอกว่ารักเธอสักครั้ง อยากจะบอกว่าคลั่งเธอสักหน
อยากจะบอกว่าในดวงกมล คิดถึงคนที่ลวงหลอกบอกรักเรา.......
...................................นั่งอยู่ใต้อาคารสองใจหมองหม่น คิดถึงคนที่เคยซึ้งคนึงหา
เมื่อไหร่หนอดวงใจจะช่วยพา ให้เธอมารักฉันนั้นเหมือนเดิม
เธอจากไปใจฉันนั้นมันเศร้า ปนคละเคล้าน้ำตามาช่วยเสริม
ความทุกข์ใจช้ำใจมาเพิ่มเติม มาช่วยเพิ่มรักเธอนั้นมันเหลือเฟือ
กว่าจะรักเธอได้ใคร่ยากนัก แต่เธอหักอกฉันได้แสนง่ายเหลือ
ความรักเธอมีมากมายหลายเหลือเฟือ เธอมีเผื่อให้เขาเศร้าอุรา
อดอะไรเหมือนจะอดที่รสรัก อดจะหักเสียด้วยใจอาลัยหา
ไม่เห็นรักหนักดิ้นสิ้นชีวา จะเป็นบ้าเสียเพราะรักสลักทรวง
............................................

น้ำตามดแดง   
      เฝ้าแอบรักเฝ้าแอบมองเฝ้าจ้องหน้า แอบสบตาให้รู้ในหัวใจโจ๋
เห็นเพื่อนมาแอบตรมตรอมจนผอมโซ หัวใจโจ๋แอบเศร้าเหงาคนเดียว
เพื่อนหรือแฟนไม่มีสิทธิ์คิดไปถาม เธอคนงามเดี๋ยวโกรธมาพาฉุนเฉียว
ถึงจะรักก็มีสิทธิ์คิดฝ่ายเดียว ใจห่อเหี่ยวมีแค่สิทธิ์คิดรักนาง
อันสันดานติดตัวมาคือบ้ารัก ยามอกหักซังกะตายคล้ายหม่นหมาง
รักคนง่ายแบบปักใจไม่จืดจาง แอบรักนางข้างเดียวแสนเปลี่ยวใจ
เดี๋ยวจะเป็นเช่นมดแดงแฝงมะม่วง ทำหึงหวงห่วงแต่เธอเพ้อหลงใหล
เขาคนอื่นที่หมายปองครองหัวใจ เราเป็นได้แค่มดแดงแฝงเฝ้าพวง
เจ้ามดแดงคงหม่นหมองต้องร้องให้ เมื่อดวงใจเห็นสิ่งรักที่จักหวง
เห็นชายอื่นนั่งข้างข้างบ้างเดินควง ใจทั้งดวงเจ็บเหมือนมีดมากรีดตำ
คิดจะลืมยังแอบมองข้างห้องเจ้า เหมือนหมาเฝ้าปลากระป๋องต้องถลำ
รักเกินครึ่งของหัวใจไม่เคยจำ จึงต้องช้ำเฝ้าแอบมองนองน้ำตา
ขอแค่สิทธิ์รักเพียงข้างบ้างได้ไหม ขอเพียงได้เห็นหน้าเธอเพียงเพ้อหา
เธอเป็นหงษ์โจ๋คงเป็นเช่นดังกา เธอเป็นฟ้าโจ๋คงเป็นเช่นเพียงดิน
อยากจะบอกว่ารักเธอสักครั้ง อยากจะฟังขอเพียงใจได้ถวิล
เธอดอกฟ้าเราหมาวัดสัตว์ติดดิน เพียงยลยินแค่เสียงเธอเพ้อคร่ำครวญ..
................................................
สายลม...สายน้ำกับ....ความรัก
สายลมพัดผ่านยอดคีรี ดูสดศรีสนทิวให้พริ้วไหว
โอ้ที่รักลาสุดแดนไกลแสนไกล สุดหวลให้ใจทอดถอนมิย้อนมา
สายน้ำหลากรินไหลไม่ย้อนกลับ ไหลรินลับตกลงตรงหน้าผา
เหมือนความรักลาไกลไม่ย้อนมา ดวงใจข้าสุดขื่นขมตรมฤทัย
ยามพบกันนั้นแสนยากพลันพรากจาก ลมวิบากโชยภมรให้อ่อนไหว
สิ้นเรี่ยวแรงความเป็นชายทั้งกายใจ ในทันใดเเสงเทียนพลันมืดมน
........................................

เห็นฟ้าครึ้มพี่ยิ่งกลุ้มในทรวงอก เห็นฝนตกก็ยิ่งพาน้ำตาไหล
เห็นฟ้าครวญพี่ยิ่งครวญป่วนฤทัย ทั้งหนาวใจหนาวฝนเหลือทนจริง
ถึงระดมห่มนวมหรือสวมเสื้อ ไม่อุ่นเนื้อเหมือนหนึ่งกอดแม่ยอดหญิง
คราไกลน้องต้องนอนกอดหมอนอิง มิได้พิงพึ่งนางจึงหมางเมิน...
ดวงชะตาวาสนาของข้าเอ๋ย ไฉนเลยพบทุกยามความผิดหวัง
พบแต่ทุกข์พบแต่เศร้าเหงาใจจัง เปรียบเหมือนดังหอยทากพรากน้ำตา
ยามเมื่อถูก.เหยียบเปลือกบาง.บ้างแตกไซร้ ก็เหมือนใจ.ข้าถูกเหยียบ.เปรียบนักหนา
มีน้ำใสไหลออคลอดวงตา ความหมองมาเยี่ยมเยือนเตือนระทม
ยิ่งคิดไปยิ่งพาใจให้ทุกข์หนัก ไร้คนรักคิดทีไรใจขื่นขม
ยิ่งคิดไปยิ่งพาใจให้ระทม สุดจะข่ม.น้ำตาให้.ไม่ไหลริน
มาคิดดูอีกทีเรานี้โง่ ต้องผอมโซแค่คิดจิตถวิล
เพียงผู้หญิงนี้หนาน้ำตาริน เมื่อไม่สิ้นจะกลัวไปทำไมกัน
แม้ได้ทำงานแล้วไม่แคล้วคู่ มัวหดหู่นั่งคิดพินิจฝัน
ตั้งใจอ่านตั้งใจเรียนเพียรทุกวัน ผู้หญิงนั้นไม่ไร้เท่าใบตอง.....โจ๋
หน้าแรก