| |
|
|
|
คำพูดที่สวยงามในที่ทำงาน |
| |
คุณเชื่อใหมล่ะว่า "คำพูดเป็นทั้งคุณและโทษ" เหมือนคำโบราณที่กล่าวไว้ว่า "พูดดีเป็นศรีแก่ปาก" นั่นเอง การใช้คำพูดเป็นสื่อที่แสดงให้เห็นว่าคุณเป็นคนประเภทใหน มีความคิดอย่างไร และที่สำคัญมีพื้นฐานทางครอบครัวอย่างไร คุณเห็นใหมว่า การแสดงออกทางคำพูด หรือวาจามีผลมากมาย ทั้งนี้เราจะนำ 7 การใช้คำพูดที่สวยงามในการทำงานมาฝากคุณๆ เผื่อว่าคุณจะมีมธุรสวาจาที่ดีในการทำงานกันนะครับ
1. เมื่อใดที่คุณจะพูดต้องดูเวลาที่เหมาะสม
หลักการเบื้องต้นก็คือคุณจะเอ่ยวจีไดๆคุณจะต้องดูเวลาด้วยว่าเหมาะสมหรือไม่ในการที่จะเปล่งเสียงออกมา การใช้คำพูดที่ไม่ถูกกาละเทศะนั้นอาจทำให้ผู้ฟังหรือเพื่อนร่วมงานของคุณเกิดอาการเบื่อหน่าย ไม่ยอมรับในคำพูดของคุณก็ได้ เพราะฉะนั้นคงต้องดูเวลากันสักหน่อยละครับว่า มีคนต้องการให้คุณพูดหรือเปล่า
2 .การพูดต้องใช้ภาษาท่าทางควบคู่ไปกับการพูดด้วย
ภาษาท่าทางก็คือ การใช้สีหน้า สายตา ท่าทาง รวมทั้งการเน้นน้ำหนักเสียงสูงต่ำ ประกอบการพูดด้วยถือเป็นการใช้องค์ประกอบร่วมที่สำคัญในการพูดทีเดียวครับ เพราะว่าคุณจะต้องควบคุมการสนทนาของคุณให้มีสติด้วย หากคุณพูดอย่างไร้สติอาจทำให้คุณพูดไปแบบไร้คุณค่าครับ
ภาษาท่าทางจะเป็นการช่วยเสริมบุคลิกของคุณในขณะที่พูดให้น่าฟัง น่าสนใจ มีชีวิตชีวา ชวนให้เกิการติดตามของผู้ฟังได้เลยนะครับ ลองนึกภาพดูนะครับ ว่าถ้าคุณต้องทนยืนฟัง คนที่พูดเหมือนกับท่องจำ หรือพูดแบบไร้ชีวิตชีวามันจะสุดทนสักแค่ใหน
3 .ในระหว่างการสนทนาต้องมีความเป็นมิตรมากกว่าศัตรู
แน่นอนละครับ ในการทำงานร่วมกันคุณๆ ต้องเจอปัญหาความไม่เข้าใจ ความขัดแย้งกันในทางความคิด จึงขอเตือนสติว่าการที่โต้เถียงกันนั้นก็เพื่อความอยู่รอด และการเจริญเติบโตขององค์กรไม่ใช่เหรอครับ มันเป็นเพียงแค่เกมส์ในการทำงานแค่นั้นเอง เพราะฉะนั้นเมื่อคุณจบบทบาทแล้วคุณต้องแสดงความเป็นผู้ใหญ่ในการทำงานด้วยการสร้างมิตร คุณต้องคิดว่า สิ่งที่คุณฟาดฟันกันแทบตายนั้นมันเกิดขึ้นในที่ประชุม เมื่อหมดการประชุมทุกอย่างก็จบลง การทำงานที่มีแต่มิตรคุณจะมีกำลังทั้งกายและใจในการทำงานได้ดีกว่าการที่คุณมีแต่ศัตรูในการทำงาน เพราะคุณจะทำงานด้วยความหวาดระแวงว่าจะมีคนคอยมาจับผิดคุณตลอดเวลาการทำงาน
4 . สร้างทักษะการสื่อสารระหว่างบุคคล
กุญแจแห่งความสำเร็จก็คือตัวคุณเอง เรื่องของการพัฒนาความสามารถ ในการสื่อสารนั้นมีพื้นฐานมาจาการศึกษา การอบรม และผลมาจากประสบการณ์ของคุณ โดยคนแต่ละคนจะมีกรอบความคิดที่แตกต่างกัน เมื่อต้องมาอยู่ร่วมกันในสังคมการทำงานก็ย่อมส่งผลให้มีความแตกต่างกันเกิดขึ้นด้วย จึงขอแนะนำว่า " ความสามารถในการสื่อสารที่โน้มน้าวผู้ฟังหรือเพื่อนร่วมงานให้เห็นด้วยหรือคล้อยตามความคิดของคุณนั่นต้องเริ่มต้นจากการพัฒนาตัวคุณเองให้เป็นผู้ที่มสีความสามารถสื่อสารได้อย่างดีตลอดเวลา " คงจะมีคำถามว่าแล้วเราจะสามารถพัฒนาทักษะได้อย่างไรกันล่ะ ปัจจุบันนี้มีคอร์สเปิดอบรมเรื่องการพัฒนาบุคลิกภาพจำนวนมาก ถ้ามีโอกาศก็ควรที่จะลองดูนะครับ
ทักษะการสื่อสารยังรวมถึงการให้ความสำคัญและการควบคุมตนเองในขณะที่กำลังทำการสื่อสารด้วยนะครับ.....สติ....สติ...ท่องจำเอาไว้นะครับ เรื่องของการควบคุมตัวเองให้สื่อสารได้อย่างมีสติคงเป็นเรื่องที่ต้องฝึกฝนเช่นกัน แต่ถ้าคุณสามารถกำกับดูแลและควบคุมมันได้ละก็คุณก็จะเป็นผู้ที่มีทักษะในการสื่อสารที่ดีอยู่ตลอดเวลา ประสิทธิผลที่คุณจะได้จากการควบคุมตนเอง ทำให้คุณรู้ว่าคุณพูดอะไรออกมา พูดเรื่องอะไร และพูดอย่างไร
ที่สำคัญที่สุดในทางตรงกันข้าม ผู้ฟังของคุณสามารถรับรู้ข้อความอะไรบ้าง รับรู้อย่างไร ตีความจากการถอดระหัสคำพูดของคุณตรงกับสิ่งที่คุณต้องการจะสื่อสารหรือไม่ เป็นจุดที่สำคัญในการพัฒนาทักษะเลยละครับ เพราะหากคุณพูดอย่านึงแล้วผู้ฟังตีความไปอย่างนึง มีความหวังรุ่งโรจน์ขององค์กรคุณคงจะริบหร่อย่างแน่นอน
5 .คุณต้องระมัดระวังคำพูด
การเลือกใช้คำพูดหรือการสร้างสารก็เป็นสิ่งสำคัญ คุณต้องรู้จักที่จะเลือกใช้คำ คำบางคำฟังแล้วดูรุนแรง คำบางคำฟังแล้วดูอ่อนโยน ทั้งๆที่ความหมายของคำเหมือนกัน คุณจะเลือกใช้คำแบบใหนล่ะ
ตัวอย่างคำพูดที่รุนแรงก็เช่น คุณช่วยทำงานเอกสารให้เสร็จภายในชั่วโมงนี้ เน้นน้ำสียงหนักโดยที่สีหน้าไม่มีรอยยิ้ม ผลกก็คือผู้ที่ได้รับคำสั่ง ทำงานเสร็จภายในอึดใจ และไม่พึงพอในแน่นอนเลยละครับ
แต่หากคุณเปลี่ยนเป็นคำพูดแบบอ่อนโยน เช่น รบกวนคุณช่วยทำงานเอกสารให้ผมหน่อยครับ ขอเป็นงานด่วนนะครับ ภายใน 1 ชั่วโมงนี้ผมต้องใช้ข้อมูล โดยใช้น้ำเสียงในเชิงขอความร่วมมือ ผลก็คือผู้ที่รับคำสั่งจะทำด้วยความสะบายใจและความเต็มใจ งานที่ออกมาก็มีประสิทธิภาพ องค์กรก็พัฒนาขึ้น
การระมัดระวังคำพูด หมายถึงการระวังเรื่องของสถานที่ในการพูดด้วยว่า คุณพูดอยู่ที่ใหน ในห้อง ในร้านอาหาร หรือคุยโทรศัพท์ เรื่องเหล่านี้จะต้องระวังด้วย เคยได้ยินใหมครับ กำแพงมีหู ประตูมีช่อง หากเป็นเรื่องลับจะต้องระวังให้ดี ไม่เช่นนั้นจะส่งผลเสียกับตัวคุณ
6 . คุณไม่ควรไว้วางใจผู้อื่นมากเกินไป
เรื่องนี้ไม่ได้บอกว่าคุณไว้วางใจไครไม่ได้ หรือไม่คบไครนะครับ การงานมันก็ต้องควบคู่ไปกับการแข่งขัน ซึ่งสิ่งที่จะตามมาก็คือการชิงดีชิงเด่น มันเป็นเรื่องที่มีคู่กับการทำงานทุกยุกทุกสมัยเลยนะครับ เพราะฉะนั้นเมื่อคุณมีความลับ มีปัญหาที่ต้องการปรึกษาเพื่อต้องการหาทางออก คุณคงต้องเลือกคนที่คุณเชื่อและไว้ใจมากที่สุด อาจไม่ใช่คนในที่ทำงานคุณก็ได้ อาจเป็นเพื่อนสมัยเรียน หรือครอบครัวคุณ ซึ่งคิดว่าปลอดภัยที่สุด เพราะบุคคลเหล่านี้ไม่มีส่วนได้ส่วนเสียกับคุณ
7 .คุณต้องพยายามหลีกเลี่ยงการโต้เถียง
การโต้เถียง การตอบโต้ ปะทะคารม ไม่เคยส่งผลดีกับไคร นอกจากได้ความสะใจ แต่ผลเสียมีมากมายตั้งแต่อัตราการเต้นของหัวใจที่สูงขึ้น ความดันโลหิตที่ไม่แน่นอน สภาวะอารมย์ที่บูดเบี้ยว ซึ่งส่งผลเสียมากๆ คือการวางตัวในที่ทำงาน เมื่อคุณมีการโต้เถียงเกิดปัญหาในที่ทำงานก็จะทำงานอย่างไม่ราบรื่นและไม่เป็นสุข เพราะฉะนั้นพยายามหลีกเลี่ยงการโต้เถียงเถอะครับ
จากข้อความข้างต้นที่กล่าวมาทั้งหมด ที่นำมาฝากหวังว่าคุณๆคงจะสามารถนำไปปรับใช้กับชีวิตการทำงานได้บ้างนะครับ ถึงไม่มากก็น้อย ดังสุภาษิตที่ สุนทรภู่เคยกล่าวไว้ว่า " ถึงบางพูดพูดดีเป็นศรีศักดิ์ มีคนรักรสถ้อยอร่อยจิต แม้นพูดชั่วตัวตายทำลายมิตร จะชอบผิดในมนุษย์เพราะพูดจา "
| | |
