HOME • IT TODAY • ENGINEERING LINK • JOB RECRUIT • COMPUTER TIP • MY DIARY • INTEREST WEBSITE • MOTOROLA PHONE TIP

 
 
การเลือกซื้อโทรศัพท์มือสอง

เพื่อนๆที่ทำงานหลายคนเปลี่ยนโทรศัพท์กันบ่อยมาก บางคนหกเจ็ดเดือนก็เปลี่ยนกันที ซึ่งอาจกล่าวได้ว่าเขาวิ่งไล่เทคโนโลยี่ที่กำลังก้าวไปอย่างไม่หยุดยั้งว่างั้นเถอะ จริงๆแล้วการเปลี่ยนเครื่องโทรศัพท์มือถือกันเป็นว่าเล่นมันก็ไม่ได้ช่วยให้อะไรอะไรดีขึ้นหรอก เอาเป็นว่าแล้วแต่ไครเห็นว่าอย่างไรก็ทำกันไปแล้วกัน ไม่ใช่เรื่องเดือดรอ้นไคร ทำแล้วสบายใจ (ถ้าไม่เสียดายตังค์ ว่าม๊ะ)

เกริ่นเรื่องซื้อโทรศัพท์กันมาแล้วเพื่อที่จะบอกว่า ตรงนี้จะมาบอกกล่าวเรื่อง การเลือกซื้อโทรศัพท์มือถือที่ใช้แล้วกัน (โทรศัพท์มือสอง) สำหรับบางท่านที่คิดอย่างจะซื้อเครื่องโทรศัพท์มือสองมาใช้กัน จะด้วยเหตุผลอะไรก็สุดแท้แต่ความคิดของแต่ละคน สำหรับผมคิดว่าก็ดีเหมือนกัน เพราะบางทีถ้าเรารู้จักเลือก และมีเวลาแวะเวียนไปดูตามร้านบางทีอาจจะได้เครื่องดีคุ้มกับราคามาใช้ก็ได ้ เครื่องโทรศัพท์ที่ผมใช้อยู่ตอนนี้ก็เป็นเครื่องมือสองใช้มาหลายเดือนแล้วใช้ดีไม่มีปัญหาเลย เพราะว่าก่อนที่จะซื้อตอนนั้นเสียเวลาเล่นเครื่อง ลองโน่นลองนี่อยู่ประมาณเกือบชั่วโมง เห็นว่าทุกอย่างมัน โอเค ก็เลยซื้อ สำหรับคนที่ต้องการที่จะซื้อโทรศัพท์มือถือมือสองสักเครื่องวันนี้จะแนะนำหลักการเบื้องต้นของการเลือกโทรศัพท์มือถือมือสอง ให้พอที่จะเข้าใจกันว่าจะต้องดูตรงใหนกันบ้าง

ตอนแรกเมื่อเราคิดว่าเราจะซื้อแล้ว ก็มาดูต่อไปว่าจะซื้อรุ่นใหน แล้วจะซื้อที่ใหน ประการแรกเลยควรไปเลือกซื้อในที่ที่มีของขายมากๆ หรือในย่านที่มีร้านโทรศัพท์ขายเยอะๆ เช่นตามห้างต่างๆ ศูนย์การค้า หรือศูนย์ไอที ต่างๆ เพราะสถานที่อย่างนี้จะมีตัวเลือกให้เราดูให้เราเลือกมากกว่า ร้านเล็กๆ (ไม่ใช่ว่าร้านเล็กๆไม่ดีนะครับ ก็ดีแต่มันมีตัวให้เราเลือกน้อยสำหรับคนช่างเลือก)
หลักจากตกลงแล้วว่าจะไปหาซื้อที่ใหน เมื่อไปถึงก็ลงทุนออกแรงเดินสำรวจก่อนว่าร้านใหนขายของรุ่นที่เราต้องการบ้างแต่ละเครื่องที่มีอยู่สภาพเป็นอย่างไรบ้าง หลังจากที่ดูเรียบร้อยแล้วจากนั้นก็เริ่มเข้าไปถามแต่ละร้านว่าราคาเป็นอย่างไร เท่าใหร่เหมาะสมกับสภาพเครื่องหรือเปล่า ตรงนี้ขอแนะนำว่าถ้าจะให้ดีให้เราถามราคาของรุ่นที่เราจะซื้อก่อนว่าราคากลางอยู่ที่ประมาณเท่าไหร เพราะอย่างน้อยๆก็จะได้รู้ว่าแต่ละร้านขายแพงมากน้อยเท่าไร ดูราคาจากแต่ละร้าน สภาพมาเปรียบเทียบกันแล้วค่อยตกลงทีหลังว่าจะซื้อร้านใหน ไม่ต้องไปอายว่าเข้าไปถามแล้วไม่ซื้อ ร้านเขาไม่ว่าอะไรหรอกและอีกอย่างหนึ่งเขาก็ไม่ได้เสียอะไร กะอีแค่เราเข้าไปดูของแล้วถามราคา หลังจากที่ตกลกแล้วว่าจะซื้อร้านใหน ก่อนซื้อก็ต้องลองก่อน ถ้าจะให้ดีเราต้องเอาซิมการ์ดไปลองด้วย สิ่งที่จะต้องทดสอบเครื่องโทรศัพท์มือสองก่อนที่จะเสียสตางค์ซื้อมีดังนี้ก็คือ

1.ดูสภาพภายนอกของเครื่องว่าเป็นอย่างไรบ้าง สภาพภายนอกยังเรียบร้อยดีอยู่หรือไม่ มีรอยที่เกิดจากการตกหล่น รอยกระแทก บ้างหรือไม่ ถ้ามีรอยหล่นตกกระแทกมากไม่แนะนำให้ซื้อเพราะว่าตอนที่เครื่องหล่นกระแทกอาจทำให้ส่วนของอุปกรณ์ภายในเครื่องแตกเสียหายใด้ อาจไม่เป็นตอนที่เราซื้อ แต่ภายในอาจมีรอยร้าวอยู่ พอเราเอาไปทำตกอีกสักครั้งสองครั้งก็กลับบ้านเก่าเร็วกว่าปกติ อีกอย่างหนึ่งที่แนะนำให้ดูก็คือการคดงอของเครื่องที่เกิดจากการเก็บเครื่องโทรศัพท์ผิดประเภท เช่น บางคนอาจจะชอบเอาโทรศัพท์ยัดเข้าในกระเป๋าหลังของการเกง เพราะการเก็บแบบนี้จะทำให้แผ่นปรินท์ของโทรศัพท์งอเสียรูป และเสียหายง่าย นอกจานี้ก็ให้ดูสภาพของเสาอากาศว่าอยู่ในสภาพดีใหม เพราะเสาอากาศมีผลต่อการใช้งานเครื่องโทรศัพท์มาก (ยกเว้นรุ่นที่ไม่มีสายอากาศภายนอกก็ไม่ต้องดู)

2.สภาพการตอบสนองของป่มกดว่าดีอยู่หรือไม่ลองกดปุ่มกดทุกปุ่มด้วยแรงกดปกติ แล้วดูว่ายังใช้ได้ปกติอยู่หรือไม่ถ้ายังใช้ได้ปกติข้อนี้ก็โอเค แต่ถ้ากดลงไปแล้วเฉยไม่ตอบสนอง การแก้ใขก็คือมองหาเครื่องใหม่ได้เลย เพราะเครื่องโทรศัพท์บางเครื่องที่เจ้าของเก่าชอบเล่นเกมส์กับเครื่องโทรศัพท์จะทำให้ปุ่มกดไปเกิดก่อนกำหนด

3.ตรวจสอบ MANU ต่างๆของเครื่องว่ายังใช้งานได้ตามปกติใหม และในเวลาเดียวกันก็สังเกตหน้าจอว่าปกติดีหรือไม่

4.ลองปิดเครื่องแล้วเปิดเครื่องดูว่า การค้นหาเครือข่าย ( NETWORK SEARCHING) ว่าปกติใหม ถ้าหากว่าใช้เวลามากกว่าปกติก็แสดงว่าเครื่องนั้นไม่ค่อยดีแล้ว

5.ลองโทรออกและโทรเข้าดูว่าเป็นไปตามปกติหรือไม่ จากนั้นก็ลองพูดคุยฟังเสียงดูว่าระบบ ไมโครโฟนและลำโพงเป็นยังไงบ้างเป็นปรกติหรือเปล่า

เมื่อทุกอย่างเป็นไปตามปกติจากนั้นก็ค่อยตกลงราคาขั้นสุดท้ายอีกที จะลดลงจากที่บอกไว้ครั้งแรกเท่าใหร่ก็แล้วแต่ฝีมือการต่อรองของแต่ละคนละทีนี้ พึงระลึกไว้เสมอว่าเสียเวลาดูเครื่องสักนิดนึงก่อนที่จะซื้อดีกว่าจะมาบ่นกันตอนที่ซื้อมาแล้วเครื่องมีปัญหาในภายหลัง เพราะว่าเครื่องโทรศัพท์ที่ซื้อมือสองส่วนมากจะไม่มีประกัน ถ้าร้านใหนไม่ให้ทดสอบไม่ให้เราลองก็จงเดินออกมาจากร้านแล้วไปหาร้านใหม่เลย ไม่ต้องสนใจหรอกครับว่าเขาจะว่าเรื่องมาก เราซื้อมาใช้ ถ้าของไม่ดีจะซื้อมาทำ ใช่ใหมครับ


กลับหน้าแรกของโฮมเพจ