เราเคยเจอเหตุการที่เวลาเราทำอะไรสักอย่างหนึ่งแล้วคนอื่นหลายๆคนบอกว่าเราทำผิดทั้งๆที่เราบอกว่าเราก็ไม่ได้ทำผิดไหม แล้วทำไมมันจึงเป็นเช่นนั้นละครับ สาเหตุมันก็คงจะเป็นเพราะว่า การที่คนคนหนึ่งจะมองอะไรแล้วตัดสินว่าอย่างนี้ถูกอย่างนั้นผิด ส่วนมากแล้วก็จะตัดสินมาจากความคิดที่มาจากภูมิหลังของตัวเอง
ตัวย่างเช่นเราเห็นคนคนหนึ่งสูบบุหรี่ เราคิดว่าเป็นสิ่งที่ไม่ดีเราไม่ชอบ เพราะเราอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่คนรอบตัวเราไม่สูบบุหรี่ แต่คนอีกคนหนึ่งเห็นว่าก็เป็นเรื่องธรรมดาไม่ได้เสียหายอะไรที่เขาเห็นเป็นเรื่องธรรมดา เพราะว่าเขาอาจมีคนรอบข้างเขาสูบบุหรี่แล้วคนเหล่านั้นก็ไม่ได้เสียหายอะไร
จะเห็นได้ว่ามันมองได้จากหลายมุม อย่างเราพิจราณาไครสักคนหนึ่งเราอาจมองว่าคนคนนี้ไม่ดีเลยเราไม่ชอบ สาเหตุที่เราไม่ชอบเราก็อาจเห็นว่าคนคนนี้ชอบคุยโม้ อวดความรู้ หรือเขามักจะชอบว่าเราเป็นอย่างโน้นอย่างนี้คือดูแล้วมันไม่ชอบนะ แต่คนอีกคนหนึ่งอาจคิดตรงข้ามกับเราเพราะอะไรตอบได้ไหม
เพราะบางที่เขาอาจชอบอะไรเหมือนกันคุยกันแล้วรู้สึกว่าถูกคอเขาจึงอยู่กันได้ แต่เราชอบอะไรไม่เหมือนเขา นั่นมันก็เหมือนกับเรามองกันคนละมุมกับคนที่ชอบเขาใช่ไหมมันก็เหมือนกับเรามองของอย่างนึง เช่น การมองภูเขาสักลักหนึ่ง คนที่ยืนอยู่ข้างหลังภูเขาก็ย่อมมองภูเขาไม่เห็นเหมือนคนที่อยู่ด้านหน้าของภูเขาใช่ไหมละครับ
ที่นี้ก็ย้อนมามองดูตัวเราบ้าง ทุกอย่างที่เราทำไปไม่ว่าอะไรนะครับส่วนมากเราก็มีเหตุผลของเราว่าทำไมเราจึงต้องทำอย่างนั้น สมมติว่าเราโดดเรียนบางทีเราคิดแล้วว่าอาจารย์สอนไม่ดีเราไม่รู้เรื่องสู่อ่านเอาเองที่บ้านดีกว่าเราก็เลยไม่เข้าเรียน แต่คนอื่นอาจมองว่าเราขี้เกียจไม่สนใจที่จะเรียนไช่ไหมละครับ เห็นแล้วไช่ไหมว่าเราทำทุกสิ่งทุกอย่างเราก็มีเหตุผลแต่ที่คนอื่นเขาว่าไม่ดีเพราะเขาไม่เข้าใจเหตุผลของเราในทางกลับกันคนอื่นก็เช่นกันเพราะฉะนั้นจะมองว่าไครทำอะไรผิดก็ต้องถามเหตุผลเขาด้วยนะครับ แต่ที่เหนือสิ่งอื่นไดสิ่งนั้นต้องไม่เป็นสิ่งที่ทำให้คนอื่นและสังคมเดือดร้อนนะครับ สวัสดีครับ