ปัญหาและการแก้ปัญหาในระบบ CATV

    1.  รูปแบบและสาเหตุของการเกิดภาพซ้อน
                    การเกิดภาพซ้อนขึ้นบนจอทีวีนั้นมาจากสาเหตุได้2ประการคือประการแรกมาจากที่สายอากาศรับ
      เอาคลื่นสะท้อนจากตึกสูง  หรือสิ่งสะท้อนคลื่นอย่างอื่นเข้ามาด้วย  และประการที่สองคือมาจากการที่คลื่นจาก
      สถานีส่งเคลื่อนที่เข้าสู่เครื่องรับโดยตรง  การเกิดภาพซ้อนในแบบแรกนั้นเกิดขึ้นได้ในลักษณะต่าง ๆ กัน
      การสะท้อนจากตึกสูง  ซึ่งเป็นกรณีที่เกิดขึ้นมากที่สุด  โดยเฉพาะในตัวเมือง  สำหรับแบบที่สองนั้น
     เป็นการสะท้อนจากสายไฟแรงสูงซึ่งเดินอยู่ตามชานเมือง หรือเขตนอกเมือง  สายไฟแรงสูงที่ขึงอยู่หลาย ๆ
     สายจะทำหน้าที่คล้ายคลึงกับม่านโลหะที่สามารถสะท้อนคลื่นได้
     การสะท้อนคลื่นในลักษณะนี้ส่วนใหญ่จะทำให้เกิดปัญหากับระบบที่อยู่ใกล้ ๆ กับสายไฟแรงสูงนั้น
     สำหรับการสะท้อนจากภูเขานั้นจะเหมือนกับการสะท้อนจากสายอากาศด้วยกันนั้น
     เป็นปัญหาในกรณีที่ติดตั้งสายอากาศไว้ในบริเวณใกล้ ๆ กัน เช่น ตามอาคารตึกแถว หรือตามอพาร์ตเมนต์
     ที่ผู้อยู่อาศัยต่างคนก็ต่างติดตั้งสายอากาศรับของตัวเองต่างหาก
            การเกิดภาพซ้อนเนื่องจากการสะท้อนจากตึกนั้น  ปัจจุบันเป็นปัญหามากตามเมืองใหญ่ที่มีตึกสูงทั้งหลาย
     ในกรุงเทพฯ เองปัจจุบันก็มีปัญหาค่อนข้างมาก  โดยเฉพาะในบริเวณย่านธุรกิจซึ่งมีตึกสูงเป็นจำนวนมาก
     บริเวณที่เกิดภาพซ้อนมักจะเป็นมากสำหรับบ้านที่มีตึกสูงบังหน้าอยู่  เนื่องจากคลื่นที่สามารถหักเห (diffract)
     มายังระดับพื้นดินทางด้านหลังของตึกสูงจะอ่อนลงไปมากเมื่อเปรียบเทียบกับคลื่นปกติ
            สำหรับการเกิดภาพซ้อนในลักษณะที่สอง คือ  เกิดจากคลื่นจากสถานีส่งเคลื่อนที่เข้าสู่เครื่องรับทีวีโดยตรง
     ภาพซ้อนที่เกิดขึ้นในกรณีนี้จะปรากฎอยู่ทางซ้ายมือของภาพที่ต้องการ  ทั้งนี้เป็นเพราะคลื่นที่เข้าสู่เครื่องรับ
     โดยตรงจะมาถึงเครื่องรับเร็วกว่าคลื่นที่ผ่านมาทางระบบสายอากาศ  การที่ปัญหาลักษณะนี้เกิดขึ้นง่ายกับตึกสูงนั้น
     เป็นเพราะว่าที่ตำแหน่งสูง ๆ หรือชั้นสูง ๆ ของตึก  คลื่นตรงจะมีขนาดสูงเมื่อเปรียบเทียบกับบริเวณชั้นหนึ่ง
     หรือชั้นสอง  เมื่อคลื่นตรงมีขนาดสูงการคัปปลิงเข้าสู่เครื่องรับก็จะสูง สำหรับการที่เดินสายยาวแล้ว
    จะเห็นภาพซ้อนได้ง่ายก็เป็นเพราะสัญญาณที่มาตามสายจะส่งถึงเครื่องรับช้ากว่าสัญญาณคลื่นตรงมากขึ้น
     การเกิดเงาก็จะชัดจะห่างกันมากขึ้น  และการที่คลื่นที่ตำแหน่งสูงมีขนาดใหญ่กว่าคลื่นที่ระดับพื้นดินทั้ง ๆ
    ที่อยู่ห่างจากสถานีส่งเท่า ๆ กันนั้น ก็เป็นเพราะว่าที่ระดับพื้นดินมักจะมีสิ่งก่อสร้างซึ่งจะทำให้คลื่นกระจัดกระจาย
    และทำให้คลื่นมีกำลังต่ำลง

     2.  การเกิดปัญหาภาพซ้อน กรณีที่คลื่นสัญญาณทีวีเข้าสู่เครื่องรับโดยตรง (Direct Coupling)
             เนื่องจากสาเหตุที่ทำให้เกิดภาพซ้อนในลักษณะนี้  เป็นเพราะสัญญาณที่เข้าเครื่องโดยตรง
    และสัญญาณที่เข้าสู่เครื่องโดยผ่านทางระบบสายอากาศมีขนาดไม่ต่างกันมากนัก  ดังนั้น แนวทางในการแก้ไข
    อย่างหนึ่งก็คือพยายามทำให้ระดับสัญญาณทั้งสองนี้แตกต่างกันมากขึ้นโดยที่สัญญาณที่ผ่านมาตามสายมีระดับสูงกว่า
    ระดับสัญญาณที่แตกต่างกันนี้ควรจะสูงกว่า 30 dB ขึ้นไป  การทำให้สัญญาณทั้งสองมีระดับแตกต่างกันมากขึ้นนั้น
    จะทำได้จาก 2 ด้านด้วยกัน คือ ทางด้านระบบและทางด้านเครื่องรับ กล่าวคือ ทางด้านระบบนั้นก็ต้องพยายาม
    ออกแบบระบบให้มีระดับสัญญาณที่ปลายทางสูงขึ้น

    3.  การแก้ปัญหาภาพซ้อนเนื่องจากคลื่นสะท้อนเข้าทางสายอากาศ
             ปัญหาภาพซ้อนเนื่องจากคลื่นสะท้อนเข้าทางสายอากาศนั้น  เมื่อมองในแง่การแก้ปัญหาแล้ว  อาจจะแยกได้เป็น
     2 แบบ คือ แบบที่คลื่นสะท้อนเข้าทางด้านหลังและแบบที่คลื่นสะท้อนเข้าทางบริเวณด้านหน้า ส่วนคลื่นที่เข้าทางมุม
     ประมาณ 90 ํ  นั้นมักไม่เป็นปัญหา  เนื่องจากสายอากาศแบบยากิไดโพล  ไม่รับคลื่นในมุมนั้นอยู่แล้ว ในหัวข้อนี้จึง
     ขอกล่าวถึงการแก้ปัญหาของกรณีทั้งสองนี้
             3.1  กรณีที่คลื่นสะท้อนเข้าทางด้านหลัง
                      การแก้ปัญหากรณีคลื่นสะท้อนเข้าทางด้านหลังนั้น  วิธีที่สะดวกและได้ผลดีคือ การเลือกใช้สายอากาศ
     ที่มีอัตราส่วนหน้าต่อหลัง (front-tobac-ratio) สูง  สายอากาศแบบนี้ส่วนใหญ่จะมีตัวสะท้อนมากกว่าหนึ่ง
    ถ้าใช้จำนวนตัวสะท้อนมากขึ้นและวางเรียงกันอย่างเหมาะสมก็จะทำให้สามารถปรับปรุงให้อัตราส่วนดังกล่าวสูง
    ขึ้นได้อีก  สำหรับความจำเป็นในการเลือกใช้สายอากาศแบบนี้ขึ้นอยู่กับขนาดของคลื่นสะท้อนที่เข้ามาทางด้านหลัง
    ถ้าคลื่นสะท้อนนั้นมีขนาดใหญ่ คือมาจากบริเวณใกล้ ๆ หรือมาจากการสะท้อนจากตึกใหญ่ ๆก็ต้องใช้ค่าสูง
    คือสูงกว่า 25 dB ขึ้นไป  แต่ถ้าคลื่นสะท้อนไม่แรงมากนัก  โดยทั่วไปค่าอัตราส่วนหน้าต่อหลังประมาณ 15-20 dB
    ก็สามารถใฃ้งานได้ดี
           3.2 กรณีที่คลื่นสะท้อนเข้ามาในมุมเฉียงทางด้านหน้า
                การแก้ปัญหาภาพซ้อนของกรณีที่คลื่นสะท้อนเข้ามาในมุมเฉียงทางด้านหน้านั้นจะทำได้ยุ่งยากกว่าของแบบ
    ที่เข้ามาทางด้านหลัง  ทั้งนี้เพราะว่าโดยทั่วไปพูคลื่นด้านหน้า (side lobe) ของสายอากาศมักจะมีขนาดใหญ่กว่าพูคลื่น
    ด้านหลัง (back lobe)  นอกจากนั้น ถ้ามุมที่คลื่นสะท้อนเข้ามาเป็นมุมแคบเมื่อมองจากทิศทางของคลื่นตรง
    ก็จะยิ่งมีปัญหามากขึ้น เนื่องจากคลื่นสะท้อนสามารถเข้ามาทางเมนบีมได้ซึ่งก็หมายความว่าระดับของ
    สัญญาณภาพซ้อนมีโอกาสที่จะเป็นปัญหามากขึ้น วิธีแก้ปัญหาของกรณีนี้ก็คือต้องพยายามสร้างจุดศูนย์ที่มุมที่คลื่น
    สะท้อนเข้ามา  เนื่องจากสายอากาศแบบยากิไดโพลโดยทั่วไปจะมีจุดศูนย์ระหว่างเมนบีมกับไซด์โลบและไซด์โลบ
    กับไซด์โลบ วิธีการที่ใช้ได้ผลดี คือ
                     วิธีสร้างจุดศูนย์ในแพทเทิร์นของสายอากาศรับโดยที่สามารถปรับมุมของจุดศูนย์ได้กว้างพอสมควร
    วิธีการที่จะสร้างจุดศูนย์ในแพทเทิร์นในลักษณะดังกล่าวนี้ จะสามารถทำได้หลายวิธีด้วยกันในที่นี้จะกล่าวถึง
    วิธีที่ใช้กันค่อนข้างแพร่หลาย 2 วิธีด้วยกัน คือ วิธีที่ใช้สายอากาศ 2 ชุดแล้วปรับช่วงห่างของสายอากาศ
    กับวิธีที่ใช้สายอากาศ 2 ชุด แล้วปรับเฟสของสัญญาณที่ได้มา
          1.  วิธีที่ใช้สายอากาศ 2 ชุด แล้วปรับช่วงห่างของสายอากาศ  วิธีนี้เป็นการใช้สายอากาศที่เหมือนกันทุก
    ประการ 2 ชุด  วางในทิศที่เมนบีมชี้เข้าหาสถานี สัญญาณที่รับได้จากสายอากาศทั้งสองจะถูกผ่านมาตามสายนำ
    สัญญาณเข้าสู่ตัวรวมสัญญาณ  โดยที่สายนำสัญญาณทั้ง 2 ด้านมีความยาวเท่ากัน
          2.  วิธีใช้สายอากาศ 2 ชุด แล้วปรับเฟสของสายอากาศด้านหนึ่ง  วิธีนี้เป็นการใช้สายอากาศ 2 ชุด
     ที่มีโครงสร้างเหมือนกัน  เช่นเดียวกับวิธีข้างบน แต่การสร้างจุดศูนย์ในแพทเทิร์นนั้นอาศัยการปรับเฟส
     ของสัญญาณที่รับเข้ามาทางสายอากาศด้านหนึ่ง  โดยใช้เฟสชิพเตอร์เข้าช่วย  กล่าวคือ จะมีเฟสชิพเตอร์อยู่ที่ด้านใด
     ด้านหนึ่งของสายอากาศ  หน้าที่ของเฟสชิพเตอร์นี้ก็คือ  คอยปรับให้เฟสของสัญญาณที่เข้ามาทางสายอากาศ
     ชุดที่ 1 และสายอากาศชุดที่ 2 หักล้างกันพอดี

    4. ปัญหาระดับสัญญาณไม่พอและการแก้ปัญหา
                 ปัญหาระดับสัญญาณไม่พอนั้นเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นเมื่อตำแหน่งรับสัญญาณทีวีอยู่ห่างจากสถานีส่ง
     เป็นระยะทางไกล ๆ ระยะทางนี้อาจจะเป็นระยะทางหลาย ๆ สิบกิโลเมตร หรือเพียง 30-40กิโลเมตรก็ได้ทั้งนี้ขึ้น
    อยู่กับกำลังออกอากาศของสถานีส่งและสภาพภูมิประเทศ เช่น มีภูเขาบัง เป็นต้น ในบริเวณที่ห่างจากสถานีส่ง
    มาก  ๆ     ดังกล่าวนี้  ระดับของคลื่นสัญญาณทีวีในอากาศจะต่ำลง ทำให้การใช้สายอากาศแบบธรรมดารับสัญญาณมา
    ได้ระดับสูงไม่เพียงพอ  ผลก็จะทำให้ภาพที่ได้ไม่ชัดและมีสัญญาณรบกวนมากจนน่ารำคาญ
                 วิธีที่ใช้ในการแก้ปัญหาคลื่นสัญญาณต่ำนี้  โดยทั่วไปจะใช้เครื่องขยายสัญญาณช่วย อย่างไรก็ตามการ
     ใช้เครื่องขยายสัญญาณช่วยนั้น  จะต้องพิจารณาถึงความเหมาะสมทางด้านเทคนิคเป็นหลัก